ในการทำแปลงปลูกทุเรียนในปัจจุบันนั้น จะนิยมจัดการแปลงใน 2 รูปแบบ คือ
1.ยกโคกแบบฝาจีบ
2.ยกโคกแบบลูกฟูก
สาเหตุที่ต้องมีการจัดการแปลงในรูปแบบดังกล่าว เพราะว่าต้องการช่วยในการระบายน้ำไม่ให้เกิดน้ำท่วมขัง เพราะทุเรียนเป็นพืชที่ต้องการร้อนชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ การยกลูกฝูกและปั้นโคกนั้นจึงช่วยลดอาการเน่าของทุเรียนและทำให้ทุเรียนโศกได้ดีขึ้น ออกดอกง่ายขึ้น แต่การยกโคกทั้ง 2 แบบนั้นก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป แล้วแต่ว่าเกษตกรจะเลือกว่าแบบไหนเหมาะกับแปลงของตน
การยกโคกแบบฝาจีบ
1.การยกโคกแบบฝาจีบ
เป็นการใช้หน้าดินมาถมหรือ เกลียดินบริเวณรอบๆมาปั้นเป็นกองขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ตั้งแต่ 4-7 เมตร สูงไม่ควรต่ำกว่า 80 ซม เนื่องจากดินจะมีการยุบตัว
ข้อดี
- ปั้นง่าย
- ทำแซมในพื้นที่แปลงเดิมได้
- ทำโศกได้ง่ายกว่า
- ระบายน้ำได้ดีกว่า
ข้อเสีย
- ตัดหญ้าได้ลำบาก ไม่สะดวกในการใช้อุปกรณ์เช่นรถตัดหญ้า
- โคกเล็ก ทำต้นโดนลมโค่นได้ง่าย
การยกโคกแบบลูกฟูก
2.ยกโคกแบบลูกฟูก
เป็นการไถ่ดินยกร่องตามแนวยาว ในทิศขวางตะวัน
ข้อดี
- ตัดหญ้าง่าย สามารถใช้เครื่องจักรได้สะดวก
- ปลูกระยะชิดได้
- ทนต่อลมพายุมากกว่า
ข้อเสีย
- ปั้นยากกว่า
- ทำโศกได้ช้ากว่าแบบฝาจีบ
- การปรับปรุงจากแปลงที่มีอยู่เดิมทำได้ยาก