ถือเป็นการรวมตัวจากหลายแห่งหลายสถาบันเลยทีเดียวสำหรับการค้นพบถึงความสามารถของว่านหางจระเข้ในการสื่อสารพับผนังเซลล์เข้าหากันได้โดยตัวมันทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะรักษาทรัพยากรภายในตัวและขณะเดียวกันองค์ประกอบคาร์โบไฮเดรต (โพลีแซคคาไรด์) ของผนังเซลล์ก็มีความเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นเดียวกัน
งานวิจัยนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของนักวิจัยจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งเดนมาร์ก ภาควิชาพืชและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนและนักวิจัยที่ Royal Botanic Gardens Kew ในอังกฤษโดยผลลัพธ์ที่พวกเค้าได้นั้นคือองค์ประกอบคาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นทำให้ว่านหางจระเข้สามารถรับมือช่วงฤดูแล้งอันร้อนระอุที่ยาวนานได้และกลไกทางสรีรวิทยาดังกล่าวนั่นเองที่อยู่เบื้องหลังการอึดทรหดภายใต้สภาพแวดล้อมที่รุนแรง
ไม้อวบน้ำส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่านหางจระเข้นั้นสามารถเอาตัวรอดและอยู่ต่อไปได้ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งทั้งหมดทั้งในระยะสั้นหรือยาวซึ่งหนึ่งในวิธีที่มันต่อต้านความแห้งแล้งคือการพับผนังเซลล์เข้าด้วยกันในระหว่างการคายน้ำและคลายผนังเซลล์ออกมาอีกครั้งเมื่อมีน้ำเพียงพอ องค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของคาร์โบไฮเดรตในผนังเซลล์ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พืชสามารถควบคุมและเก็บกักน้ำรวมทั้งยังถ่ายโอนลักษณะดังกล่าวไปให้กับพืชชนิดอื่นๆได้เช่นกัน